ความเครียดอันตรายแค่ไหน
วิธีขจัดความเครียดทำอย่างไร
หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าตัวเองกำลังเครียดอยู่...ความเครียดคือสภาวะที่ร่างกายแสดงปฏิกริยาออกมา เช่น กล้ามเนื้อมีการขึงตึง หด เกร็ง นอนไม่หลับ ไม่อยากทำอะไร รู้สึกเหนี่อยหน่ายไม่แจ่มใส...ที่มากไปกว่านั้นคือ
1. หน้ามืด เป็นลม เจ็บหน้าอก ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หลอดเลือดอุดตัน โรคอ้วน แผลในกระเพาะอาหาร
2. เกิดความไม่สมดุลของระบบฮอร์โมน จะทำให้เกิดอาการทางกายหลายอย่างแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ตั้งแต่ปวดศีรษะ ปวดหลัง อ่อนเพลีย คนที่มีโรคเบาหวาน
เป็นโรคประจำตัวอยู่แล้ว หากเกิดความเครียดอย่างรุนแรง ฮอร์โมนคอร์ติซอลจะไปกระตุ้นระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้นหรือลดต่ำลงอย่างผิดปกติ และทำให้เกิด
อาการช็อกได้ ในรายที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้เกิดเป็นอาการของโรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ต่างๆ โรคผิวหนัง อาจมีอาการผมร่วง
และมีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับคนปกติ
3. มีพฤติกรรมการปรับตัวต่อความเครียดในทางที่ผิด เช่น สูบบุหรี่ ติดเหล้า ติดยา เล่นการพนัน การเปลี่ยนแปลงของสารเคมีบางอย่างในสมองทำให้บุคคลมีพฤติกรรม
ก้าวร้าวมากขึ้น ความอดทนเริ่มต่ำลง พร้อมที่จะเป็นศัตรูกับผู้อื่นได้ง่าย อาจมีการอาละวาดขว้างปาข้าวของ ทำร้ายผู้อื่น ทำร้ายร่างกายตนเอง หรือหากบางรายที่
เครียดมากอาจเกิดอาการหลงผิดและตัดสินใจแบบชั่ววูบนำไปสู่การฆ่าตัวตายในที่สุด
4. ภาวะเครียดเป็นเวลานานๆ ฮอร์โมนคอร์ติซอลที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น จะทำให้เซลล์ประสาทฝ่อและลดจำนวนลง โดยเฉพาะในสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับกับความจำและ
สติปัญญา ความเครียดจึงทำให้ทำให้ความจำและสติปัญญาลดลง และยังมีผลต่อการทำงานของระบบสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารมณ์และพฤติกรรมโดย
เฉพาะสารสื่อประสาท จึงทำให้เกิดอาการซึมเศร้าและวิตกกังวล
ตัวเร่งที่ทำให้เกิดความเครียด
1. สภาพแวดล้อมทั่วไป เช่น มลภาวะ ได้แก่ เสียงที่ดังเกินไปจากเครื่องจักร เครื่องยนต์ อากาศเสียจากควันท่อไอเสีย น้ำเสีย ฝุ่น ละออง ยาฆ่าแมลง การอยู่กันอย่างเบียดเสียดยัดเยียด เป็นต้น
2. สภาพเศรษฐกิจที่ไม่น่าพอใจ รายได้ยังไม่ครอบคลุมรายจ่าย
3. อุปนิสัยหรือไลฟ์สไตล์
- ชอบแข่งขันสูง ชอบท้าทาย ชิงดีชิงเด่นเอาชนะ
- เข้มงวด เอาจริงเอาจังกับทุกอย่าง ไม่มีการปล่อยวาง
- ทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน
- อารมณ์รุนแรงอัดแน่นในใจเป็นประจำ
- ใจร้อน จะทำอะไรต้องให้ได้ผลทันทีไม่ชอบรอนาน
วิธีการจัดการกับความเครียด1. หาสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียด หากแก้ไขเองไม่ได้ อาจต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
2. ผ่อนคลายร่างกาย เช่น การหายใจเข้า-ออกลึกๆ หรือการทำสมาธิเพื่อหยุดความคิดของตัวเอง
3. การสร้างอารมณ์ขัน การคิดในทางบวก
4. ออกกำลังกาย การนวด การอาบน้ำอุ่น
5.
การฝึกเกร็งและคลายกล้ามเนื้อของ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข โดยเกร็งกล้ามเนื้อ เช่น ฝ่ามือ นิ้วเท้า ข้อเท้า เป็นต้น ค้างไว้สัก 10 วินาที แล้วคลายออก จากนั้นก็เกร็งใหม่สลับกันไป ประมาณ 10 ครั้ง