ไม่พูดถึงไม่ได้แล้ว...การลดน้ำหนักสุดฮิต!

ไม่พูดถึงไม่ได้แล้ว...การลดน้ำหนักสุดฮิต!
การลดน้ำหนักแบบไอเอฟ (Intermittent Fasting Diet) เป็นกระแสในช่วงหลายปีไม่นานมานี้ แต่มาได้รับความสนใจแบบสุดๆ พีคๆ ที่อเมริกา ในช่วงคาบเกี่ยวปลายปี19 มาจนถึง มค. 20 ปัจจุบันในเมืองไทยเองก็มีการพูดถึงกันเป็นอย่างมาก เพื่อนๆ สามารถเลือกหา เลือกดูได้ในยูทูปนะคร้า...แต่ๆๆ ประเด็นคือ ทำไมถึงได้รับความสนใจมากขนาดนั้นนะหรือ? วันนี้อิชั้นไปหาคำตอบมาให้คร้า

ว่ากันว่า การลดน้ำหนักแบบ I F ช่วยให้อัตราการเผาผาญดีขึ้น เผลอๆ จะช่วยยืดอายุขัยให้ยาวขึ้นได้อีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจ ที่มีการคิดค้นวิธีการ I F หลายๆ แบบ ซึงแต่ละแบบจะให้ผลลัพธ์ที่ดีแค่ไหน ก็ขึ้นกับแต่ละบุคคลเลยนะคร้า แต่มีอยู่ 6 แบบหลักๆ ที่ได้รับความนิยมมาก คือ

1. แบบ 16/8 ...หลักการคือกินอาหาร 8 ชั่วโมง (สามารถแบ่งเป็นมื้อย่อยได้ 2-3 มื้อ หรือมากกว่าได้) และให้กระเพาะว่างจากอาหาร 16 ชม. สำหรับผู้หญิงสามารถยืดหยุ่นได้ โดยกิน 8-10 ชม. และให้ท้องว่างได้ 14-15 ชม. วิธีนี้จะยากนิดนึงสำหรับคนที่ชินกับการต้องกินอาหารเช้านะคร้า

2. แบบ 5:2 ...กินแบบปกติ 5 วันในหนึ่งสัปดาห์ และจำกัดปริมาณการกินอาหารที่ 500-600 แคลลอรี่/วัน เป็นเวลา 2 วันในหนึ่งสัปดาห์ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพคือ กินปกติทุกวัน ยกเว้นวันอังคารและพฤหัสฯ ที่จะกินอาหารแค่วันละ 500 แคลลอรี่สำหรับผู้หญิง และ 600 แคลลอรี่สำหรับผู้ชายนะคร้า

3. แบบ กิน-หยุด-กิน ...หยุดการกินอาหาร 1-2 วันในแต่ละสัปดาห์ เช่นวันอาทิตย์กินอาหารมื้อเย็นตอน 1ทุ่ม แล้วปล่อยให้ท้องว่างไปจนถึง 1 ทุ่มของวันจันทร์ (สามารถดื่มน้ำ กาแฟดำ หรือเครื่องดื่มที่ไม่ใช่อัลกอฮอล์) จึงจะเริ่มการกินอาหารมื้อใหม่ได้ วิธีนี้จะทำได้ค่อนข้างยาก กูรูแนะนำให้เริ่มจากวิธีที่ 1 สำหรับผู้เริ่มต้นใหม่นะคร้า

4. แบบสลับวัน... คือวิธีที่เรากินอาหาร 1 วัน แล้ววันถัดไปก็ปล่อยให้ท้องว่าง 1วัน (หรืออาจเปลี่ยนเป็นกินอาหารแค่ 500-600 แคลลอรี่) ทำแบบนี้สลับๆ กันไป
ทุกวัน วิธีนี้ค่อนข้างสุดขั้ว ไม่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นลดน้ำหนักนะคร้า

5. แบบนักรบ... คือการกินแบบจัดเต็มจัดหนัก ช่วง 16.00-20.00 น. ของทุกวัน ราวกับมีการเฉลิมฉลองงานเลี้ยง ส่วนมื้ออื่นๆ ให้กินได้เฉพาะผัก และผลไม้ที่ไม่ได้ปรุงแต่งโดยกินแต่เพียงเล็กน้อย

6. แบบ งดเป็นบางมื้อ บางคราว (ตามธรรมชาติ)...เช่นเมื่อรู้สึกว่ายังไม่หิว หรือกำลังยุ่งจนไม่มีเวลากินอาหาร

ทั้งหมดทั้งมวล อิชั้นไม่ได้ต่อต้านวิธีการลดน้ำหนักข้างต้นนะคร้า เพียงแต่ต้องการจะชั้ให้เห็นว่า ควรคำนึ่งถึงสุขภาพเบื้องต้นด้วย เช่นเพื่อนๆ น้องๆ คนไหนที่เป็นโรคกระเพาะอยู่แล้ว ก็ไม่ควรจะปล่อยให้น้ำย่อยออกมาโดยที่ท้องว่างนะคร้า...โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว กินอาหารแต่พอดี ไม่มากเกินความต้องการ (ส่วนใหญ่คนที่มีน้ำหนักตัวมาก เพราะบริโภคอะไรก็อร่อย เจริญอาหาร) หากตอนเย็นเราไม่ได้ทำกิจกรรมหรืองานแล้ว เราก็บริโภคให้น้อย เน้นพืชผักผลไม้ เพื่อให้มีการขับถ่ายที่ดี เว้นแป้งคาโบไฮเดรต...ง่ายๆ แค่นี้ แบบที่ไม่ต้องเครียดกับกฏเกณท์อะไรวุ่นวาย ก็ทำให้ผอมได้อย่างแน่นอน และยึดหลัก 5 อ. ...อาหาร อากาศ อารมณ์ ออกกำลังกาย และอึอึ...นะคร้า