ฮอร์โมน DHT ที่มากเกินไป ทำให้ผมร่วงหัวล้านได้ง่ายๆ นะ
วิธีรับมือกับฮอร์โมน DHT ที่มากไป
พูดให้สั้นๆ และเข้าใจได้ง่ายๆ DHT เป็นฮอร์โมนเพศชายที่มีฐานการผลิตหลักๆ ที่ลูกอัณฑะ และอีกส่วนน้อยผลิตได้จากต่อมหมวกไต ถ้ามีการผลิตในปริมาณมากไป ก็จะเป็นสาเหตุทำให้ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านได้ง่ายๆ แต่ถ้าหากมีปริมาณที่น้อยไป ก็อาจทำให้ลักษณะ
ความเป็นชายชาตรีไม่ชัดเจนหรือไม่สมบูรณ์เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น เช่น
- เสียงทุ้ม
- มีขนขึ้นตามตัว มีกล้าม(เนื้อ)
- อวัยวะเพศเติบโตขึ้น อัณฑะและและถุงอัณฑะเริ่มผลิตสเปอร์ม
- ช่วยให้ไขมันมีการกระจายตัวทั่วร่างกาย
โบราณว่าไว้ คนหัวล้านเซ็กซ์จัด?
ข้อนี้แอดมินยังไม่สามารถคอนเฟิร์ม 100% นะค้า แต่ถ้าดูจากข้อมูลข้างต้นแล้ว ถ้าจะจริงแฮ่ะ....555 (ใครๆ คนไหนที่มีเพื่อนซี้ๆ ที่ศีรษะล้าน ลองกระซิบถามกันดู แล้วมาบอกต่อกันด้วยนะคร้า แอดมินชอบกินเผือกเจ้าค่ะ)
มาถึงตรงนี้ ทุกคนคงร้องอ๋อแล้วนะว่าทำไมผู้ชายถึงหัวล้านได้ง่ายกว่าผู้หญิง ( ก็ลูกอัณฑะเป็นอวัยวะหลักที่ผลิต DHT ไงคร้า) ถ้าหากชายใดมี DHT เยอะๆ แบบที่มากเกินไป ก็จะทำให้มีความเสี่ยงในเรื่อง
- ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ซึ่งมีส่วนสัมพันธ์กับพันธุกรรมด้วย
- ผิวหนังสมานตัวช้า ถ้าได้รับบาดเจ็บ
- มะเร็งต่อมลูกหมาก
- โรคหลอดเลือดหัวใจ
DHT ทำงานอย่างไร จึงทำให้เส้นผมหลุดร่วงไป และไม่กลับมา?
โดยปกติแล้วรูขุมขนหรือรูเส้นผมของเราๆ จะมีอายุขัยอยู่ที่ 2-6 ปี แล้วก็จะเข้าสู่ระยะพักตัวสักระยะหนึ่ง (หลายเดือน) ก่อนที่จะหลุดร่วง แล้วก็งอกใหม่ เป็นวงจรแบบนี้เรื่อยไป เมื่อชายใดมีระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึง DHT ที่มากเกินไป ก็จะทำให้รูขุมขนหดตัวเล็กลง รวมถึงวงจรขีวิตของเส้นผมสั้นลงด้วย เส้นผมที่งอกออกมาใหม่ก็จะเส้นเล็กลง และเปราะขาดง่าย หลุดร่วงเร็วแต่จะงอกใหม่ช้า
ทำไมผู้ชายบางคนถึงศีรษะไม่ล้าน?
ในเมื่อผู้ชายทุกคนต่างก็มีการผลิต DHT กันทุกคน (ในคนปกติ) แต่มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ศีรษะล้าน นั่นเป็นเพราะแต่ละคนมีตัวรับฮอร์โมน (Androgen Receptor : AR) ที่ไม่เท่ากัน ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการอ่อนแอของรูเส้นผม และการงอกใหม่ด้วย
แนวทางการแก้ไขปัญหาผมร่วง ศีรษะกำลังจะล้าน?
โดยมากแล้ว ผมร่วงผมบางมักจะมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป แบบไม่ทันรู้ตัว (น้ำค่อยๆ ซึมลงบ่อทราย) มารู้ตัวอีกทีก็แทบจะกู้คืนได้ยากแล้ว แต่เพื่อนๆ อย่าพึ่งหมดกำลังใจนะคะ เพราะหากรูเส้นผม รากผมแข็งแรงแล้ว เส้นผมก็จะงอกใหม่ขึ้นมาได้ตามวงจรชีวิตของเส้นผมนั่นเอง ดังนั้นหากเพื่อนๆ มีพันธุกรรม หรือเริ่มสังเกตุว่ามีผมร่วงมากขึ้น หรือเส้นผมมีขนาดเล็กลง เปราะขาดง่ายแล้วละก็ แอดมินขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์นะคะ โดยแพทย์ก็จะรักษาโดยการให้
1. ยากิน เพื่อยับยั้งหรือเพื่อลดระดับฮอร์โมน DHT
2. ยาทาเฉพาะที่ เพื่อขยายหลอดเลือดบริเวณหนังศีรษะ ให้โลหิตมีการไหลเวียนทั่วหนังศีรษะ
ยากิน หรือยาทา อาจมีผลข้างเคียงในบางคนในเรื่องของ
- การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หลั่วเร็วเกินไป หรือใช้เวลานานเกินไป
- ร่างกายมีไขมันเพิ่มมากขึ้น และที่บริเวณเต้านมได้ด้วย
- มีผื่นคัน
- รู้สึกไม่สบาย อยากอาเจียน
- ผิวหนังบริเวณใบหน้า และเหนือเส้นขน จะมีสีคล้ำและหนาขึ้น
- อาจมีภาวะหัวใจล้มเหลว (โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาทา)
3. เสริมด้วยวิตามิน
- ไบโอตินหรือวิตามิน H ช่วยให้ผมงอกใหม่ และเส้นผมมีความแข็งแรง ไบโอตินช่วยเพิ่มและรักษาระดับของเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่อยู่ในเล็บ ผิวและเส้นผมของเรา แหล่งของไบโอตินธรรมชาติ คือไข่แดง ถั่ว และเมล็ดธัญพืชที่ไม่ถูกขัดสี
- วิตามินบี6, 12 ช่วยให้โลหิตไหลเวียนทั่วหนังศีรษะ
- คาเฟอีน มีการศึกษาที่ทำให้เชื่อได้ว่า ช่วยให้เส้นผมยาวเร็วขึ้น ช่วยยืดวงจรเส้นผมในช่วงเติบโต และช่วยเสริมสร้างการผลิตเคราติน
- น้ำมันเมล็ดฟักทอง มีการทดลอง (จำนวนตัวอย่างยังอยู่ในปริมาณน้อย) และพบว่า ช่วยให้ยับยั้ง DHT ได้ ภายหลังการรับประทานต่อเนื่อง 24 สัปดาห์
4. สุดยอดอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยลดฮอร์โมนดีเอชที
หากเพื่อนๆคนไหนที่อยากได้อาหารในแบบที่ได้จากธรรมชาติมากกว่าอาหารเม็ดประเภทวิตามินสังเคราะห์ อ่านเพิ่มกดได้ที่นี่คะ ---> ( สุดยอดอาหารต้านศีรษะล้าน )
มาถึงตรงนี้ แอดมินขอย้ำว่า DHT เป็นเพียงสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมร่วง ผมบาง หัวล้านนะคะ ยังมีปัจจัยหรือสาเหตุอื่นๆ อีกหลายอย่างมากที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้ผมร่วงได้นะคะ แต่ที่แน่นอนที่สุดก็คือ ทำอย่างไรให้เส้นผมและหนังศีรษะของคุณแข็งแรงไว้ก่อน ย่อมหมายถึงแต้มต่อที่เส้นผมจะอยู่กับเราไปนานๆ หากสนใจใช้สมุนไพรช่วยดูแลเส้นผมของคุณให้แข็งแรง เรามีแชมพูสมุนไพรให้เลือกใช้ตามสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ 3 สูตร เพื่อนๆ สามาถไลน์มาพูดคุยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แอดมินยินดีให้คำแนะนำคะ