เมื่อหนุ่ม 19 กำลังจะศีรษะล้าน
ทุกเช้ามีเส้นผมติดอยู่บนหมอนเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
น้องเซเด เป็นนักศึกษาปีที่ 2 เพิ่งจะเอาชนะและผ่านพ้นวัยเป็นสิวที่ใบหน้ามาได้ไม่นาน และยังแอบภูมิใจในรูปร่างของตน กลับพบว่าตัวเองต้องตกใจทุกครั้งที่ตื่นนอนในตอนเช้า เพราะบนหมอนของตัวเองมีเส้นผมติดอยู่ทุกวัน
เซเดรำพันกับตัวเองว่า
"นี่ตรูกำลังจะหัวล้านแล้วหรือนี่" ทั้งๆ ที่ไม่มีใครในครอบครัวเลยที่ศีรษะล้าน จะมีก็แต่คุณลุงเท่านั้นที่ศีรษะล้าน
"หรือเรากินแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์"
"หรือชั้นออกกำลังกายน้อยไป"
"หรือรังแคทำให้ผมของตรูกำลังจะร่วงหมดหัว" เซเดเฝ้าหาคำตอบให้กับตัวเองอยู่ 2 ปี ลองทุกอย่างตั้งแต่ดื่มชาเขียว ตั้งใจออกกำลังกายให้มากขึ้น นั่งสมาธิและทำกิจกรรมอื่นๆ ที่คิดว่าจะช่วยลดความเครียดของตัวเองลงได้ เปลี่ยนแชมพูบ่อยมากเมื่อพบว่ามีเส้นผมร่วงเยอะขึ้น เซเดก็ได้ไปปรึกษากับแพทย์ด้วย ลึกๆ แล้วเซเดอยากได้ความมั่นใจจากคุณหมอที่จะพูดว่า "สาเหตุที่คุณผมร่วง เป็นเพราะขาดธาตุเหล็กนะ" อะไรทำนองนี้
คำตอบหาเป็นเช่นนั้นไม่ คุณหมอกลับพูดกับเขาว่า "ดูเหมือนว่าคุณกำลังจะศีรษะล้านนะ ในแบบที่ผู้ชายจำนวน 50% มักจะเป็นกัน" เซเดช้อคไปชั่วขณะ แล้วโต้เถึยงกับคุณหมอว่า "จะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อทั้งคุณตาและคุณปู่ ต่างก็มีเส้นผมทีดกดำ"
เซเดเดินออกจากคลีนิคด้วยความสลดพร้อมกับรับยาเม็ดที่ช่วยชลอผมร่วง หรือหยุดอาการผมร่วงหากรับประทานยานี้ทุกวันอย่างสมำเสมอ และเซเดก็รู้ดีว่ายาตัวนี้มีผลข้างเคียงที่อาจจะทำให้นกเขาไม่ขัน ส่วนครีม โลชั่น ที่คุณหมอจัดมาให้ทานั้น เซเดก็รู้ว่า เป็นการรักษาที่ปลายเหตุ เพราะมันช่วยให้ผมงอกก็จริง แต่มันไม่สามารถทำให้เส้นผมหยุดร่วงได้
เซเดตัดสินใจที่จะไม่ทำตามใบสั่งยาของคุณหมอ กลับบ้านมาประคบประหงมเส้นผมที่เหลืออย่างทนุถนอม ใช้เวลาหมดไปในตอนเช้ากับการจัดแต่งทรงผมให้เข้าที่ เข้าร้านทำผมตัดผมบ่อยๆ และพยายามไม่ให้เส้นผมลีบแบนถ้ามีเหงื่อออกมาก หรือโดนฝนตกใส่
และแล้ว วันแห่งความกล้าหาญก็มาถึง เซเดไม่อยากเสียเวลาไปกับการทึ่ต้องคอยปิดบังเส้นผมของตัวเอง เขาคิดได้ว่า ตัวเองมี 2 ทางเลือก คือ
1. ยอมรับมัน หรือ
2. ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง
เซเดไม่อยากเสียเงินไปกับการปลูกถ่ายเส้นผมที่เขาคิดว่ามีความเสี่ยง แล้วก็ไม่อยากที่จะสวมวิกให้รำคาญใจด้วย
และเขาก็กำลังจะเดินทางไปซัมเมอร์ที่อาฟริกาตะวันตกที่มีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 100 องศาฟาเรนไฮต์ในเวลากลางวันด้วย
เซเดตัดสินใจมุ่งหน้าไปที่ร้านบาร์เบอร์ช้อป บอกให้ช่างช่วยโกนหัวของเขาให้เกลี้ยงเลย เขาใช้มือลูบไล้ไปทั่วศีรษะ ยิ้มให้กับกระจกเมื่อเห็นว่า โฉมใหม่ของเขา ดูไปแล้วก็เท่ไม่เบา
เซเดออกจากร้านด้วยความรู้สึกที่เป็นอิสระ เดินไปและรู้สึกว่า โล่งตัวเบาในแบบที่ไม่เคยได้สัมผัสแบบนี้มาก่อน ที่เคยจมอยู่กับความรู้สึกวิตกกังวลเรื่องผมร่วงมาเป็นเวลาเนิ่นนาน
เซเดเปรียบเทียบความรู้สึกกลัว เหมือนตอนที่เขากำลังจะกระโดดลงไปในสระน้ำ แต่พอกระโดดลงไปแล้ว เขาก็รู้สึกว่าน้ำในสระก็เย็นสบายดี และระดับน้ำก็ไม่ได้ลึกอย่างที่เขากลัวด้วย
แต่เซเดก็รู้สึกเป็นกังวลเล็กๆ ที่เขากำลังจะกลับไปที่บ้าน หรือมหาวิทยาลัย คนรอบข้างจะมีปฏิกิริยาต่อผมทรงใหม่ของเขาอย่างไรนะ เพียงแค่ 2-3 วันเท่านั้นที่เพื่อนๆ พากันมาแซวที่เขาไม่เหลือเส้นผมบนศีรษะ
เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ก็ไม่มีใครพูดถึงเส้นผมบนศีรษะของเขาอีกเลย เซเดเริ่มมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นๆ และเริ่มมีเพื่อนสาวที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่
การโกนศีรษะของเซเด ช่วยปลดล๊อคประตูที่เขาได้เป็นผู้ปิดมันไว้เอง นั่นเอง
สุดท้ายนี้ แอดมินอยากบอกให้ทุกๆคนว่า อย่าลืมดูแลเส้นผมและหนังศีรษะของตัวเองนะคะ เพราะเส้นผมช่วยส่งเสริมบุคลิกของคุณให้ดีขึ้นได้จริงๆ