No shampoo ด้วยผงฟู ได้และดีมั้ย?

No shampoo ด้วยผงฟู ได้และดีมั้ย?

เป็นกระแสมาสักพักใหญ่ๆ แล้วในบ้านเรา No poo ก็คือศัพท์ทีฝรั่งใช้เรียกการทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะที่ไม่ต้องผึ่งพาแชมพู

มีการรีวิวในโซเชียลว่าดีมากมาย ทำให้หนังศีรษะสะอาดบ้างล่ะ ลดผมร่วง เส้นผมนุ่มสลวยบ้างล่ะ แอดมินก็เลยไปหาคำตอบว่าจริงๆ แล้วเป็นเช่นไรกันแน่

อันว่าเบคกิ้งโซดา หรือโซเดียมไบคาร์บอเนต หรือผงฟูนั้น มีสรรพคุณมากมายร้อยแปดพันเก้า (อ่านเพิ่มกดที่นี่ ---> สรรพคุณเบคกิ้งโซดา ) หลักๆ ก็คือใช้เป็นส่วนผสมของการทำอาหารเพื่อให้เกิดการพองฟูตามชื่อ และด้วยความที่เจ้าผงฟูนี้มีค่าความเป็นด่างอยู่ที่ pH 9 จึงสามารถนำไปใช้ขจัดความมันตามที่ต่างๆ เช่นจาน ชาม คราบที่เตา รวมไปถึงน้ำมันบนเส้นผมและหนังศีรษะของเราได้ด้วย ดังนั้นคนที่มีหนังศีรษะมันมากๆ เมื่อได้ทดลองใช้ผงฟูมาทำความสะอาดแล้วจึงรู้สึกว่าสะอาดถูกใจมากๆ

         
ทำไมผู้คนที่ใช้ผงฟูแทนแชมพูถึงชอบใจ?
เพราะคนที่มีเส้นผมและหนังศีรษะมันมาก ได้ผลลัพธ์ในเรื่องของการขจัดความมันออกไปได้อย่างดีไงล่ะคะ

         

ความเสี่ยงคืออะไร?
เนื่องจากวัตถุประสงค์หลักของผงฟูนั้น มีไว้สำหรับเป็นส่วนผสมของอาหาร เมื่อมีความเป็นด่างสูง จึงมีคนนำมาประยุกต์ใช้กับหนังศีรษะ แต่ผิวหนังของพวกเรานั้นมีค่า pH อยู่ที่ 5.5 และในทางการแพทย์ก็ยังไม่มีการตีพิมพ์หรือยืนยันอย่างเป็นทางการว่า การใช้ผงฟูสระผมจะส่งผลดีในระยะยาวหรือไม่ เพราะ
1. อาจทำให้เส้นผมและหนังศีรษะแห้งมากขึ้นได้ หากใช้บ่อยหรือใช้มากเกินไป ปริมาณน้ำมันบนเส้นผมและหนังศีรษะของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน และด้วยประสิทธิภาพในการชำระล้างความมันได้เป็นอย่างดี จึงดึงความมันออกไปได้มากเช่นกัน ทำให้ผมแห้ง ผมชี้ฟู ผมไร้น้ำหนัก เกิดสะเก็ดแห้งเป็นรังแค และอาจเพิ่มคันศีรษะได้อีกด้วย
2. อาจทำให้เส้นผมเปราะและแตกปลายได้ด้วย เพราะการเกิดไฟฟ้าสถิตย์ และเพิ่มแรงเสียดทานระหว่างเส้นผมด้วย 
3. อาจทำให้หนังศีรษะเกิดการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่มีผิวแห้งอยู่แล้ว ไม่ควรใช้ผงฟูมาสระผมแทนแชมพูเด็ดขาด อาจทำให้เส้นผมหลุดร่วงตามมาได้ง่ายๆ

สรูปว่าการใช้เบคกิ้งโซดาสระผมแทนแชมพูของใครบางคนที่ได้ผลลัพธ์ดี อาจจะไม่เหมาะกับเส้นผมและหนังศีรษะของเรา เพราะปริมาณน้ำมันบนหนังศีรษะของแต่ละคน หรือกิจกรรมระหว่างวันก็ไม่เหมือนกัน บางคนต้องทำงานอยู่กลางแจ้งเกือบทั้งวัน รวมไปถึงอาหาร รสนิยมการกินก็แตกต่างกันก็ทำให้สภาพหนังศีรษะต่างกันได้ คำแนะนำที่น่าจะดีสำหรับทุกคนก็คือ หากยังอยากใช้เบคกิ้งโซดามาสระผมแล้วละก็ แอดมินขอบอกแบบสั้นๆ และจบนะคะว่า ไม่ควรใช้บ่อยหรือถี่เกินไปคะ เพราะจะเปลี่ยนจากได้ประโยชน์ เป็นเสียประโยชน์ซะงั้น